มัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง : บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction)
CAI เป็นกระบวนการเรียนการสอนโดยใช้สื่อคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอเนื้อหาเรื่องราวต่างๆ มีลักษณะเป็นการเรียนโดยตรงและเป็นการเรียนแบบมีปฏิสัมพันธ์(Interactive) กับผู้เรียนคือสามารถโต้ตอบระหว่างผู้เรียนกับคอมพิวเตอร์ได้ จำแนกได้ 3 ชนิด คือ
1. CAI (Computer Assisted Instruction)
2. CAL (Computer Assisted Learning)
3. CBT ( Computer Base Training)
ความสามารถของบทเรียน CAI
- ช่วยจัดในการจัดการเรียนการสอนตามจุดประสงค์ที่วางไว้
- มีความสามารถในการทบทวนบทเรียน
- การวัดผลประเมินผล
- เป็นชุดการเรียนที่สามารถเรียนได้ด้วยตนเอง
- เนื้อหาโปรแกรมแบ่งเป็นหน่วย ๆ ได้
- ผู้เรียนศึกษาด้วยตนเองได้
- บทเรียนมักเป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่มีความสามารถโต้ตอบกับนักเรียนได้เสมือนกับได้นั่งเรียนกับครูจริงๆ
องค์ประกอบสำคัญของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
- เสนอบทเรียนแบบสิ่งเร้าให้กับผู้เรียน ได้แก่ เนื้อหา ภาพนิ่ง คำถาม ภาพเคลื่อนไหว
- เปรียบเป็นสารานุกรมให้ผู้เรียนได้ค้นคว้า
- ให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อการเสริมแรง ได้แก่ การให้รางวัล การชมเชยหรือ คะแนน
- ให้ผู้เรียนเลือกเรียนบทเรียนตามต้องการในลำดับหัวข้อ
การแบ่งประเภทของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
- ประเภทเพื่อการสอน (Tutorial Instruction) ประเภทนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการสอนเนื้อหาใหม่แก่ผู้เรียน มีการแบ่งเนื้อหาเป็นหน่วยย่อย เป็นตอน มีคำถามในตอนท้าย ถ้าตอบถูกและผ่าน ก็จะเรียนหน่วยถัดไป
- ประเภทการฝึกหัด(Drill and Practice)ประเภทนี้มีวัตถุประสงค์คือ เป็นการฝึกความแม่นยำ หลังจากที่เรียนเนื้อหาจากในห้องเรียนมาแล้วจะเป็นการสุ่มคำถามที่นำมาจากคลังคำถาม จากนั้นจะมีการประเมินผลผู้เรียน
- ประเภทสถานการณ์จำลอง(Simulation)วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนได้ทดลองปฏิบัติกับสถานการณ์จำลองที่มีความใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริง เพื่อฝึกทักษะและเรียนรู้โดยเป็นการจำลองสกถานการณ์ให้ผู้เรียนไม่ต้องเสี่ยงหรือเสียค่าใช้จ่ายมาก เช่นโปรแกรมสาธิต(Demostration) เพื่อให้ผู้เรียนทราบถึงทักษะที่จำเป็น
- ประเภทเกมการสอน (Instruction Games) ประเภทนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน ให้ผู้เรียนเกิดความเร้าใจในการเรียนรู้ มีการแข่งขัน เราสามารถใช้เกมในการสอนและจัดบทเรียนให้เป็นเกมเพื่อเป็นสื่อที่ให้ความรู้แก่ผู้เรียนได้ในแง่ของกระบวนการ ทัศนคติ ตลอดจนทักษะต่างๆ ทั้งยังช่วยเพิ่มบรรยากาศในการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน
- ประเภทการค้นพบ (Discovery)มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียน ได้มีโอกาสทดลองกระทำสิ่งต่างๆ ก่อน
จนกระทั่งสามารถหาข้อสรุปได้ด้วยตนเอง โปรแกรมจะเสนอปัญหาให้ผู้เรียนได้ลองผิดลองถูกและให้ข้อมูลแก่ผู้เรียนเพื่อช่วยผู้เรียนในการค้นพบนั้น จนกว่าจะได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด
- ประเภทการแก้ปัญหา (Problem-Solving)เพื่อฝึกให้นักเรียนรู้จักการคิด การตัดสินใจ โดยจะมีเกณฑ์ ที่กำหนดให้แล้วผู้เรียนพิจารณาตามเกณฑ์นั้นๆ
- ประเภทเพื่อการทดสอบ (Test) ประเภทนี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการสอน แต่เพื่อใช้ประเมินการสอนแต่เพื่อใช้ประเมินการสอนของครูหรือการเรียนของนักเรียน คอมพิวเตอร์จะประเมินผลในทันทีว่านักเรียนสอบได้หรือสอบตก และจะอยู่ในลำดับที่เท่าไรได้ผลการสอบกี่เปอร์เซ็นต์